ดอกบัวในโถแก้ว: วิธีทำดอกไม้แห้งแบบง่าย ๆ โดยที่ยังสวยเหมือนเดิมการทำดอกไม้แห้งให้สวยเหมือนเดิมนั้นเป็นศิลปะที่ต้องใช้เทคนิคเล็กน้อยครับ โดยเฉพาะการรักษาสีสันและรูปทรง ดอกไม้แห้งที่สวยงามจะช่วยเพิ่มเสน่ห์และความอบอุ่นให้กับบ้านของคุณได้อย่างดีเยี่ยม
หลักการสำคัญเพื่อให้ดอกไม้แห้ง "สวยเหมือนเดิม"
คัดเลือกดอกไม้ที่เหมาะสม:
เลือกดอกที่เพิ่งบานเต็มที่ หรือบานประมาณ 70-80%: ไม่ควรเลือกดอกที่ตูมเกินไป (อาจไม่บานต่อ) หรือบานโรยแล้ว (กลีบจะช้ำง่าย)
เลือกดอกที่สดใหม่ ไม่มีตำหนิ: ไม่มีรอยช้ำ ไม่มีโรคหรือแมลง เพราะตำหนิจะชัดขึ้นเมื่อดอกแห้ง
เลือกชนิดที่เหมาะกับการทำแห้ง: ดอกไม้ที่มีกลีบไม่บางหรือช้ำง่าย และมีปริมาณน้ำน้อย เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยีย ยิปโซ สแตติส ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส
ควบคุมสภาพแวดล้อมในการแห้ง:
ความมืด: หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดจะทำให้สีดอกไม้ซีดจางลงอย่างรวดเร็ว
ความแห้ง: สถานที่ที่ใช้ทำดอกไม้แห้งต้องแห้งสนิท ไม่มีไอน้ำหรือความชื้นสูง
การถ่ายเทอากาศ: ควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อให้ความชื้นในดอกไม้ออกไปได้รวดเร็ว ลดโอกาสเกิดเชื้อรา
วิธีทำดอกไม้แห้งแบบง่ายๆ ที่ยังคงความสวยงาม
สำหรับมือใหม่และคนที่ต้องการความง่าย แต่ยังคงผลลัพธ์ที่สวยงาม ผมแนะนำ 2 วิธีนี้เป็นหลักครับ:
1. การอบแห้งด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel Drying)
วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการ คงสีสันและรูปทรง ของดอกไม้ให้สวยงามเหมือนดอกไม้สดมากที่สุดครับ
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด: เลือกดอกที่สดใหม่ เพิ่งบานกำลังสวย
ซิลิกาเจล (Silica Gel): เลือกแบบเม็ดเล็กละเอียดสำหรับทำดอกไม้แห้ง (หาซื้อได้ตามร้านงานฝีมือ หรือออนไลน์)
ภาชนะมีฝาปิดสนิท: เช่น กล่องพลาสติกแบบมีคลิปล็อก หรือโหลแก้วที่มีฝาปิดแน่น
ช้อนเล็กๆ หรือแปรง: สำหรับช่วยกลบและปัดซิลิกาเจล
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: ตัดก้านดอกไม้ให้สั้นลง เหลือประมาณ 1-2 นิ้ว หรือเฉพาะส่วนดอก (หากต้องการใช้แต่ดอก) เด็ดใบส่วนเกินออก
เทซิลิกาเจลรองพื้น: เทซิลิกาเจลลงในภาชนะประมาณ 1-2 นิ้ว เพื่อทำเป็นฐาน
วางดอกไม้: วางดอกไม้ลงบนซิลิกาเจล โดยจัดทรงดอกให้สวยงาม
กลบดอกไม้: ค่อยๆ ใช้ช้อนตักซิลิกาเจลโรยกลบดอกไม้ให้มิด โดยพยายามให้เม็ดซิลิกาเจลแทรกซึมเข้าไปในกลีบดอกให้ทั่วถึง และไม่ให้ดอกไม้ถูกบดทับ (อาจใช้ปลายแปรงช่วยจัดกลีบ)
ปิดฝาให้สนิท: เมื่อดอกไม้ถูกกลบด้วยซิลิกาเจลจนมิดแล้ว ให้ปิดฝาภาชนะให้สนิท เพื่อไม่ให้อากาศภายนอกและความชื้นเข้าไปได้
รอ: ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ประมาณ 2-7 วัน (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิด ขนาด และความหนาของดอกไม้) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิท เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกกรอบและไม่มีความชื้น
นำออก: เมื่อแห้งแล้ว ค่อยๆ เทซิลิกาเจลออกอย่างเบามือ แล้วใช้แปรงขนนุ่มๆ ปัดซิลิกาเจลที่เกาะอยู่ตามกลีบดอกออกให้หมดอย่างระมัดระวัง
ข้อดี: คงสีสันและรูปทรงได้ดีเยี่ยม เหมือนดอกไม้สดมากที่สุด
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายสำหรับซิลิกาเจล (แต่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้โดยการอบไล่ความชื้น)
2. การแขวนกลับหัวตากลม (Air Drying)
เป็นวิธีที่คลาสสิกและง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมากนัก เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีก้านแข็งและกลีบไม่ช้ำง่าย
อุปกรณ์:
ดอกไม้สด: เลือกชนิดที่เหมาะสม เช่น กุหลาบ ยิปโซ สแตติส ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส ไฮเดรนเยีย (สำหรับไฮเดรนเยีย ให้ตากเมื่อดอกเริ่มเป็นสีออกเขียวๆ จะสวยและแห้งง่ายกว่าตอนบานสดๆ)
เชือก หรือยางรัด
กรรไกร
ขั้นตอน:
เตรียมดอกไม้: เลือกดอกที่เพิ่งบานเต็มที่ ไม่เหี่ยวเฉา และไม่มีรอยช้ำ
ตัดแต่ง: เด็ดใบที่อยู่ส่วนล่างของก้านออกให้หมด เพราะใบจะแห้งช้าและอาจทำให้เกิดเชื้อรา
มัดรวม: มัดก้านดอกไม้รวมกันเป็นช่อเล็กๆ (ประมาณ 3-5 ดอกต่อช่อ) ด้วยเชือกหรือยางรัด โดยไม่มัดแน่นจนเกินไป เพื่อให้ลมเข้าถึงได้ทั่วถึงทุกดอก
แขวนกลับหัว: แขวนช่อดอกไม้แบบกลับหัวลง ในบริเวณที่ อากาศถ่ายเทได้ดี แห้งสนิท และสำคัญที่สุดคือ "ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง" เช่น ในห้องเก็บของ ตู้เสื้อผ้าที่เปิดระบายอากาศ มุมห้องที่มืดและแห้ง
รอ: ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และความชื้นในอากาศ) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิทและกรอบ เมื่อสัมผัสแล้วไม่มีความชื้น ก็เป็นอันใช้ได้
ข้อดี: ง่ายมาก ประหยัด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ
ข้อเสีย: สีของดอกไม้อาจจะซีดจางลงได้บ้าง (แต่ก็ได้ความสวยงามแบบวินเทจ) รูปทรงอาจบิดเบี้ยวได้เล็กน้อย ไม่เหมาะกับดอกไม้ที่มีกลีบบางมากๆ หรือมีปริมาณน้ำมาก
เคล็ดลับเพิ่มเติม เพื่อให้ดอกไม้แห้งของคุณสวยงามยาวนาน:
พ่นสเปรย์เคลือบ: เมื่อดอกไม้แห้งสนิทดีแล้ว คุณสามารถพ่นสเปรย์เคลือบดอกไม้แห้ง (Floral Sealer Spray) หรือสเปรย์ฉีดผมแบบธรรมดา (Hair Spray) บางๆ ให้ทั่วดอกไม้ จะช่วยรักษาสีและป้องกันไม่ให้กลีบร่วงง่าย
เก็บให้พ้นแสงแดดและความชื้น: ดอกไม้แห้งที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ควรเก็บไว้ในที่ที่ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง และไม่มีความชื้นสูง เพื่อคงสภาพสีและรูปทรงไว้ให้นานที่สุด
ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับชนิดดอกไม้และอุปกรณ์ที่คุณมีดูนะครับ ขอให้สนุกกับการทำดอกไม้แห้งน่ารักๆ ครับ!