ผู้เขียน หัวข้อ: โรคปอดอักเสบ อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง?  (อ่าน 2 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 249
    • ดูรายละเอียด
โรคปอดอักเสบ อาการเป็นอย่างไร ป้องกันได้อย่างไรบ้าง?

โรคปอดอักเสบ หรือที่หลายคนเรียกว่า ปอดบวม (Pneumonia) เป็นภาวะที่มีการอักเสบและติดเชื้อในเนื้อเยื่อปอดและถุงลม ทำให้ถุงลมเต็มไปด้วยหนองและของเหลว ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

อาการของโรคปอดอักเสบ (Pneumonia Symptoms)
อาการของโรคปอดอักเสบอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรค อายุ และสุขภาพพื้นฐานของผู้ป่วย แต่โดยทั่วไปจะมีอาการหลัก ๆ ดังนี้:

1. อาการเด่นชัดที่ระบบทางเดินหายใจ

ไอมีเสมหะ: เป็นอาการที่พบบ่อย เสมหะอาจมีสีเหลือง สีเขียวขุ่น หรือบางครั้งอาจมี เลือดปน

หายใจลำบาก/เหนื่อยหอบ: หายใจเร็ว หายใจถี่ หรือรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด แม้ขณะพักผ่อนหรือทำกิจกรรมเบา ๆ

เจ็บหน้าอก: รู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ที่หน้าอก โดยเฉพาะเมื่อหายใจเข้าลึก ๆ หรือไอแรง ๆ


2. อาการทั่วไปของร่างกาย

มีไข้สูง หนาวสั่น: มักมีไข้สูงและมีอาการเหงื่อออกมาก หรือรู้สึกหนาวสั่นอย่างรุนแรง

อ่อนเพลียมาก: รู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรง หรือเมื่อยล้าตามตัว

คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย: บางรายอาจมีอาการทางระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย

อาการในผู้สูงอายุ: อาจมีอาการแสดงออกไม่ชัดเจน แต่อาจมีอาการ ซึมลง สับสน หรืออุณหภูมิร่างกายลดลงต่ำกว่าปกติ

การป้องกันโรคปอดอักเสบ
การป้องกันโรคปอดอักเสบเน้นไปที่การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และการลดโอกาสในการรับเชื้อโรค ซึ่งทำได้หลายวิธีดังนี้:


1. การฉีดวัคซีน (วิธีที่มีประสิทธิภาพสูง)

การฉีดวัคซีนเป็นวิธีหลักในการป้องกันปอดอักเสบจากเชื้อที่พบบ่อย โดยเฉพาะเชื้อ นิวโมคอคคัส (Pneumococcal) และไข้หวัดใหญ่:

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine): แนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มักเป็นสาเหตุที่ทำให้ปอดอ่อนแอและติดเชื้อปอดอักเสบซ้ำซ้อนได้ง่าย

วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine): มีหลายชนิด เช่น PCV (ป้องกันได้หลายสายพันธุ์) และ PPSV23 แพทย์จะแนะนำชนิดที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเสี่ยง:

ผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป)

ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ตับ ไต

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือสูบบุหรี่จัด


2. การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล

ล้างมือบ่อย ๆ: ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะหลังไอ จาม และก่อนรับประทานอาหาร

หลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อ: สวม หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในที่แออัด หรือบริเวณที่มีมลภาวะสูง รวมถึงหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย

ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น: เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว


3. การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยง

เลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง: การสูบบุหรี่ทำลายกลไกป้องกันการติดเชื้อของปอดโดยตรง

รักษาโรคประจำตัวให้ดี: ควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน และรักษาโรคหัวใจ/ปอดเรื้อรัง เพื่อไม่ให้อาการกำเริบจนปอดอ่อนแอ

พักผ่อนให้เพียงพอ: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

หากคุณมีอาการคล้ายปอดอักเสบ โดยเฉพาะอาการไอมีเสมหะร่วมกับไข้สูงและเหนื่อยหอบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็วจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้